top of page
newscms_thaihealth_c_cegnost24578.jpg

ถ้าเป็น "มะเร็ง" จะรักษาหายไหม...

"มะเร็ง" คืออะไร ???

ระดับความร้ายแรงของ "โรคมะเร็ง"

ระยะของ "โรคมะเร็ง"

"โรคมะเร็ง" ที่พบบ่อยในคนไทย

มะเร็งที่พบมากในเพศชาย 10 ลำดับ คือ 
  1. มะเร็งปอด
  2. มะเร็งลำไส้ใหญ่
  3. มะเร็งตับและทางเดินน้ำดี
  4. มะเร็งหลอดอาหาร
  5. มะเร็งหลังโพรงจมูก
  6. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
  7. มะเร็งลิ้น
  8. มะเร็งช่องปาก
  9. มะเร็งกล่องเสียง
  10. มะเร็งกระเพาะอาหาร
มะเร็งที่พบมากในเพศหญิง 10 ลำดับ คือ 
  1. มะเร็งเต้านม
  2. มะเร็งปากมดลูก
  3. มะเร็งลำไส้ใหญ่
  4. มะเร็งปอด
  5. มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
  6. มะเร็งรังไข่
  7. มะเร็งตับและทางเดินน้ำดี
  8. มะเร็งต่อมไทรอยด์
  9. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
  10. มะเร็งกระเพาะอาหาร

สาเหตุการเกิด "โรคมะเร็ง" 

Blogging Tips LinkedIn Post Header (1).j

การรักษา "โรคมะเร็ง"ปัจจุบัน

การผ่าตัด

แพทย์จะผ่าตัดเอาเนื้องอกออกให้หมด บางครั้งอาจจะต้องผ่าเอาเนื้อดีรอบเนื้องอกออกไปด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าได้ตัดเนื้องอกออกหมดจึงต้องส่งชิ้นเนื้อรอบๆเนื้องอกเพื่อส่องกล้องว่ามีเซลล์มะเร็งหลงเหลือหรือไม่ นอกจากนั้นแพทย์จะผ่าเอาต่อมน้ำเหลืองใกล้กับที่เนื้องอกอยู่ออกไปด้วย และเพื่อให้แน่ใจว่าจะกำจัดเนื้องอกได้หมดแพทย์จะทำการฉายแสง หรือให้เคมีบำบัด หรือให้ฮอร์โมน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการผ่าตัดทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตมากที่สุด ผู้ป่วยไม่ได้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งแต่เสียชีวิตจากการที่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว หรือร่างกายไม่พร้อมรับการรักษา

ศัลยแพทย์ในระหว่างการผ่าตัด

การฉายแสงรังสี

การฉายรังสีมักทำหลังจากการให้ยาเคมีบำบัดครบแล้ว ถ้าหากผู้ป่วยมีเม็ดเลือดขาวต่ำ..อาจต้องให้ผู้ป่วยพักการฉายรังสี จนกว่าค่าเม็ดเลือดขาวของผู้ป่วยกลับมาเป็นปกติ จึงทำการฉายรังสีต่อไป หรือการดูแลผิวหนังบริเวณที่ฉายรังสีก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่างกรณีที่ผู้ป่วยได้รับการฉายรังสีบริเวณรักแร้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มักเกิดความอับชื้นจากเหงื่อและการเสียดสีกับแขนเสื้อ อาจทำให้มีโอกาสเกิดแผลได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังมีโอกาสเกิดอาการข้างเคียงอื่นๆ เช่น ไอ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หรือกลืนอาหารลำบาก เนื่องจากการฉายรังสีต่อมน้ำเหลืองบริเวณช่องอกจะส่งผลกระทบต่อหลอดอาหารบางส่วน

shutterstock_1134202460.jpg

การให้ เคมีหรือคีโม

แพทย์เลือกสูตรยาเคมีบำบัดและวางตารางการให้ยาเคมีบำบัด ซึ่งประกอบไปด้วยจำนวนครั้งของการให้ยาเคมีบำบัด ระยะเวลาระหว่างรอบของการให้ยาเคมีบำบัดตั้งแต่เริ่มต้นการรักษาขึ้นกับชนิดของมะเร็ง ระยะของโรคมะเร็ง และสุขภาพของผู้ป่วย ซึ่งมีความแตกต่างการในแต่ละสูตรยาเคมีบำบัด ซึ่งระยะเวลาที่เว้นระหว่างการให้ยานั้นเพื่อให้เซลล์ร่างกายปกติฟื้นฟูตัวเองจากผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัด การให้ยาแต่ละรอบ (มักจะให้ทุก 2-4 สัปดาห์) อาจประกอบด้วยยาหลายชนิดและอาจให้เพียงวันเดียว หรือหลายวันติดต่อกันหรือสัปดาห์ละครั้งก็ได้ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเลือกสูตรยาและตารางการให้ยาเคมีบำบัดที่เหมาะสมกับชนิดของโรคมะเร็ง และสภาพร่างกายของผู้ป่วย

chemo-therapy2.jpg
S__10076432.jpg

ตารางผลข้างเคียงการรักษา

"โรคมะเร็ง"

หากมีอาการข้างเคียง

จากการรักษา ควรทำอย่างไร???

1.อาการอ่อนเพลีย 
ข้อควรปฏิบัติ
  • แบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ ใช้อาหารอ่อนที่เคี้ยวน้อยที่สุด
  • ให้พักผ่อนบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนมื้ออาหาร
2.เบื่ออาหาร
ข้อควรปฏิบัติ
  • จัดอาหารเป็นมื้อเล็กๆ แต่บ่อยๆ
  • เลือกอาหารที่มีโปรตีนและพลังงานสูง หรืออาหารทางการแพทย์ สูตรโปรตีนสูง หรืออาหารเสริมพอลลิติน เป็นตัวเสริม เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ร่างกายต้องการอย่างครบถ้วน
3.การรับรสเสียไป
ข้อควรปฏิบัติ
  • จัดอาหารที่มีกลิ่นและสี เสิร์ฟอาหารที่มีอุณหภูมิอุ่นถึงร้อนจะช่วยให้กลิ่นและรสดีขึ้น
  • อาหารที่มีรสเปรี้ยว เช่นน้ำมะนาว จะช่วยกระตุ้นการรับรส
  • เลี่ยงเนื้อแดง ชา กาแฟ
4.คลื่นไส้ อาเจียน
ข้อควรปฏิบัติ
  • อมน้ำแข็ง จิบเครื่องดื่มที่มีคาร์บอเนต (โซดา) 
  • อาหารแห้ง และอาหารเย็น ช่วยลดอาการ เช่น แครกเกอร์ โยเกิร์ต น้ำแข็งใส ผลไม้ลอยแก้ว เลี่ยงอาหารที่มีรสจัดและหวานจัด
5.ทนกลิ่นและอาหารบางชนิดไม่ได้
ข้อควรปฏิบัติ
  • ผู้ป่วยอาจจะเกลียดหรือแพ้กลิ่น หรือรสของอาหารที่เคยชอบ ผู้้ป่วยบางคนอาจจะมีการรับรสเค็มและหวานลดลง
  • ใช้เครื่องเทศใช้ในการปรุงอาหาร เลือกอาหารที่มีสังกะสีสูง
6.อิ่มเร็ว
ข้อควรปฏิบัติ
  • เครื่องดื่มที่มีสารอาหารครบถ้วน ดื่มระหว่างมื้อ เช่นอาหารทางการแพทย์ สูตรโปรตีนสูง หรือสารอาหารบำบัดจากธรรมชาติพอลลิติน
  • เลี่ยงอาหารมัน-ทอด เนื่องจากย่อยยาก
  • รับประทานอาหารมื้อเล็กๆ หลายๆมื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานเพื่อไปต่อสู้กับเซลล์ร้าย

โภชนาการ ด้านอาหาร

สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง

Blogging Tips LinkedIn Post Header (1).j
อาหารที่ "ควรรับประทาน"
สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
  • คาร์โบไฮเดรต
จากอาหารประเภทข้าว และ แป้งคือสิ่งที่ร่างกายต้องการเพราะอาหารประเภทนี้ให้พลังงานแก่ผู้ป่วยมะเร็งได้
  • อาหารต้มหรือนึ่ง
เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ และเหมาะกับผู้ป่วยมะเร็งเพราะไขมันจะต่ำ และลักษณะอาหารจะนิ่ม เคี้ยวง่าย กลืนง่าย ทำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้มากขึ้น
  • ไขมันดีหาได้จากเนื้อปลา ปลาน้ำจืด ปลาที่มีเกล็ด เมล็ดพืชต่างๆ รำข้าว
ซึ่งอุดมไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย และจัดเป็นกลุ่มอาหารที่ให้พลังงานสูง​
  • ดื่มน้ำ
ดื่มน้ำอย่างน้อย 6-8 แก้ว ต่อวัน และควรจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อช่วยในการกลืนอาหาร เพราะผู้ป่วยมะเร็ง มีภาวะปากแห้ง น้ำลายแห้ง ดังนั้นการดื่มน้ำที่เพียงพอจึงสำคัญ
  • ผักและผลไม้
มีวิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูงแต่ทั้งนี้ ผู้ป่วยมะเร็งไม่ควรรับประทานผักดิบหรือผลไม้ที่ไม่ปอกเปลือก เพราะอาจมีสารตกค้าง เนื่องจากผู้ป่วยมะเร็งจะมีภูมิคุ้มกันไม่เท่าคนปกติ
  • ทานอาหารอ่อนๆ
เช่นโจ๊ก ข้าวต้ม ซุปเต้าหู้อ่อน มันฝรั่งบด ซึ่งเป็นอาหารย่อยงาย เหมาะกับผู้ป่วยมะเร็ง เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารไปเติมพลังเพื่อต่อสู้กับมะเร็ง
Blogging Tips LinkedIn Post Header.jpg
อาหารที่ "ไม่ควรทาน"
สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
  • ไขมันที่พบมากในสัตว์เนื้อสีแดง
ไขมันประเภทนี้มีส่วนเชื่อมโยงต่อการก่อตัวของมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • อาหารรสเค็มจัด ของหมักของดอง 
สารโซเดียมคลอไรด์การบริโภคอาหารที่มีเกลือเป็นส่วนประกอบในปริมาณที่สูงเกินไปจะส่งผลให้ปริมาณเกลือโพแทสเซียมในร่างกายลดลง ทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายลดลงตามไปด้วย
  • แอลกอฮอล์
มีสารเอทานอล เมื่อถูกย่อยสลายไปในร่างกายแล้ว จะกลายเป็นสารที่มีชื่อว่า อะเซทแอลดีไฮด์ ซึ่งมีผลทำให้เซลล์ในร่างกายอ่อนแอลงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
  • อาหารที่ได้รับการตกแต่ง สี กลิ่น รส
ที่อาจเป็นอันตราย เช่น การใช้สีที่ไม่ใช่สีผสมอาหาร อย่างสีย้อมผ้า หรือแม้กระทั่งการใช้สีผสมอาหารในปริมาณที่มากเกินไป
  • ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากเนื้อสัตว์
เช่น เนื้อเค็ม กุนเชียง ไส้กรอก เบคอน มักจะมีดินประสิว สารเหล่านี้ก็จัดเป็นสารก่อมะเร็ง หากรับมากยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
  • เชื้อราที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหารชนิด
เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากที่สุดคือเชื้อราที่ผลิตสาร อะฟลาท๊อกซิน หากรับประทานเข้าไปจะก่อให้เกิดการสะสมภายในร่างกาย 
9457f3-01c3d4948c8447f8983f10ac64e49801-
มะเร็ง หรือ เนื้อร้าย เป็นคำที่มีความหมายเหมือนกัน คือ โรคที่เกิดจากการแบ่งตัว หรือการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกายผิดปกติ ร่างกายไม่สามารถควบคุมหรือกำจัดได้ด้วย กลไกตามปกติ มะเร็งมีความสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น ต่อมน้ำเหลือง ปอด ตับ สมอง กระดูก เป็นต้น
ระยะความร้ายแรงของ มะเร็ง ช่วยให้สามารถวางแผนการรักษา ผู้ป่วยให้เหมาะสม กับผู้ป่วยแต่ละคน ความร้ายแรงของโรคมะเร็ง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเซลล์ต้นกำเนิด เช่น มะเร็งสมอง มะเร็งตับ มะเร็งปอด มีความร้ายแรงของโรคมากกว่า มะเร็งต่อมน้ำลาย มะเร็งอัณฑะ เป็นต้น
Blogging Tips LinkedIn Post Header.jpg
  • มะเร็ง ระยะ 0 คือระยะที่มีเซลล์มะเร็ง ยังจำกัดอยู่เฉพาะบริเวณพื้นผิวของเยื่อบุอวัยวะนั้นๆ มักมีโอกาสรักษาหายขาดได้เกินกว่า 95%
  • มะเร็ง ระยะ 1-2 เรียกว่ามะเร็งระยะต้น แพทย์ผู้รักษามะเร็ง มักจะรักษาโดยมีเป้าหมายให้หายขาด รักษาอวัยวะให้สามารถ มีการทำงานให้ใกล้เคียงปกติที่สุด มีอัตราการรอดชีวิต อยู่ที่ 5 ปี ระหว่าง 70-95%
  • มะเร็ง ระยะ 3 เป็นมะเร็งระยะลุกลามเฉพาะที่ มักจะมีการลามของมะเร็ง ไปยังอวัยวะใกล้เคียง หรือต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง การรักษาด้วยการผ่าตัด มักจะยากขึ้นกว่ามะเร็งระยะต้น  มีอัตราการรอดชีวิต อยู่ที่ 5 ปี ระหว่าง 40-70%
  • มะเร็ง ระยะ 4 เป็นมะเร็งระยะลุกลามเฉพาะที่หรือเป็นระยะที่มีการแพร่กระจายของโรค มะเร็ง ขึ้นอยู่กับอวัยวะของต้นกำเนิดเซลล์มะเร็ง ส่วนใหญ่การรักษาอาจไม่หายขาด และอาจได้รับความทุกข์ทรมาน จากก้อนมะเร็งที่แพร่กระจาย

มะเร็ง เป็นได้ ก็หายได้...

ลองดูประสบการณ์จากพวกเขาเหล่านี้

มะเร็ง เต้านม (ลุกลามไปปอด)

หลังจากที่ทานไป 9 เดือน
macbook.png
S__24215567.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
อาการที่พบได้บ่อย
  • มีอาการเจ็บปวดเต้านมข้างหนึ่งในระดับเบาหรือบริเวณไหล่และหลังมีอาการเมื่อยและบวม
  • สามารถสัมผัสได้ว่าในเต้านมมีก้อนขนาดถั่วปากอ้าอยู่และไม่เจ็บปวด
  • ผิวหนังบริเวณที่มีก้อนเนื้อจะนูนขึ้น
  • ผิวหนังบริเวณหน้าอกบุ๋มลงไปหรือย่น
  • หัวนมเน่าและไม่สม่ำเสมอ
  • ผิวหนังของเต้านมหนาขึ้น และรูขุมขนใหญ่ขึ้น
  • หัวนมมีของเหลวไหลออกมา ซึ่งอาจเป็นเลือดหรือของเหลวปนเลือด

มะเร็ง สมอง (ระยะสุดท้าย)

9457f3-01c3d4948c8447f8983f10ac64e49801-

รีวิว (Review)

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (ระยะสุดท้าย)

หลังจากที่ทานไป 7 เดือน
macbook.png
IMG_3759.JPG
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
อาการที่พบได้บ่อย
  • การพบก้อนที่บริเวณต่าง ๆของร่างกาย เช่น ที่คอ รักแร้ หรือ ขาหนีบ โดยก้อนที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองนั้น มักไม่เจ็บต่างจากการติดเชื้อที่มักมีอาการเจ็บที่ก้อน
  • มีเหงื่อออกมากตอนกลางคืน
  • เบื่ออาหาร และน้ำหนักลด
  • อ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ไอเรื้อรัง และหายใจไม่สะดวก
  • ต่อมทอนซิลโต
  • ปวดศีรษะ (พบในมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระบบประสาท)

มะเร็ง ตับ (ระยะสุดท้าย)

หลังจากที่ทานไป 8 เดือน ครึ่ง
macbook.png
S__24215568.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
อาการที่พบได้บ่อย
  • ปวด แน่น เจ็บบริเวณท้องบนด้านขวาและลิ้นปี่ คล้ายกับโรคกระเพาะอาหาร
  • คลำเจอก้อนขนาดใหญ่ใต้ชายโครงด้านขวา
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลดแบบไม่ทราบสาเหตุ
  • ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโต
  • คลื่นไส้ อาเจียน
หลังจากที่ทานไป 5 เดือน ครึ่ง
macbook.png
S__24215569.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
อาการที่พบได้บ่อย
  • ปวดศีรษะ โดยจะมีอาการรุนแรงในตอนเช้า
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • เป็นลมหมดสติ
  • ซึม
  • ชัก
  • อ่อนแรงและชาบริเวณแขนและขา
  • กล้ามเนื้อกระตุก
  • มีปัญหาการทรงตัว หรือเดินลำบาก
  • มีปัญหาทางความคิด สติปัญญา อารมณ์ หรือสูญเสียความทรงจำ
  • มีปัญหาในการพูด
  • มีปัญหาในการมองเห็น
  • มีปัญหาบุคลิกภาพที่เปลี่ยนแปลงไป

มะเร็ง ปอด (ระยะสุดท้าย)

หลังจากที่ทานไป 7 เดือน 
macbook.png
วรชิต1.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
อาการที่พบได้บ่อย
  • ไอเรื้อรัง (ไอแห้งหรือไอมีเสมหะ)
  • มีปัญหาการหายใจ เช่น หายใจสั้น
  • หายใจมีเสียงหวีด
  • เจ็บบริเวณหน้าอกตลอดเวลา
  • ไอมีเลือดปน
  • เสียงแหบ
  • ติดเชื้อในปอดบ่อยๆ เช่น ปอดบวม
  • เหนื่อยง่าย หรือรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

ทำความรู้จัก กับ พอลลิติน 

 ให้มากขึ้นกว่าเดิม

DSC_5314rc.JPG
ผู้ผลิต สารอาหารบำบัด พอลลิติน
บริษัท Graminex คือบริษัทผู้ผลิต พอลลิติน สืบเนื่องจากบริษัท เอบี เชอร์แนลในสวีเดน บริษัทผู้ผลิตรายนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเคสช์เลอร์ รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา
34195442_10156392949967829_1727594373694
ก่อนเริ่มการผลิต
ได้ศึกษาวิจัยและการคิดค้น วิธีการสกัดละอองเกสรดอกไม้ โดยเริ่มจากการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ ที่ไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลง และสารกำจัดวัชพืช 
DdQVpCAWAAAgv36.jpg
ขั้นตอนการเก็บเกี่ยว
 มีขั้นตอนทำการเก็บเกี่ยวด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย แล้วทำการสกัดละอองเกสรโดยกระบวนการที่เป็นลิขสิทธิ์โดยเฉพาะ และกรองโดยวิธีเทคนิค ทำให้ปราศจากเชื้อเพื่อกำจัดสารปนเปื้อน และกำจัดสารก่อภูมิแพ้ ควบคุมคุณภาพด้วยการวิเคราะห์ความเข้มข้นสารออกฤทธิ์ ขบวนการผลิต ความคงตัวของผลิตภัณฑ์ เพื่อกำหนดวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ ควบคุมคุณสมบัติทางกายภาพ และคุณสมบัติทางเคมี ตลอดจนประเมินผลและบรรจุ และภาชนะบรรจุภัณฑ์
22-1-orig_orig.png
การรับรองมาตรฐาน
ขั้นตอนการผลิตทั้งหมด ได้ผ่านมาตรฐานคุณภาพ ISO9002 โรงงาน Graminex ได้ผ่านการรับรองกระบวนการผลิตตามมาตรฐานสากล GMP รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่เป็นเภสัชภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

คำถามที่คุณอาจสงสัย ???

Q&A

พอลลิติน คืออะไร
พอลลิติน คือ สารสกัดจากอณูละอองเกสรหญ้าไรย์ (ข้าวไรย์) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น Nutraceutical หรือสารอาหารบำบัด มีจำหน่ายกว่า 50 ประเทศ ใน 6 ทวีปทั่วโลก ยาวนานกว่า 50 ปี 
ผลิต และ นำเข้ามาจาก ประเทศอะไร
ผลิตที่ บริษัท กรามิเน็กซ์ (Graminex) ที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา รัฐโอไฮโอ นำเข้ามาจำหน่ายที่ประเทศไทย มากกว่า 20 ปี บริษัทของเรา เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ 1 เดียว ทั่วโลก
ถ้าทานแล้ว จะปลอดภัยไหม​​
ปลอดภัย 100% เรากล้า การันตรี เพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ขั้นตอนการผลิต เป็นไปตามข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก ได้รับค่ามาตรฐานเฉพาะ ผลิตภัณฑ์ระดับโลก คือ ORAC หรือค่าระดับความเข้มข้นของสารต้านอนุมูลอิสระ และค่า Cap-e Test หรือค่าความสามารถ ในการดูดซึมเข้าสู่เม็ดเลือดแดงที่สูงมาก ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีอยู่เกือบ 100% โดยไม่ตกค้างภายในร่างกายของผู้ป่วย
ทำไม พอลลิติน รักษามะเร็ง ได้ผล
พอลลิติน มีกรดอะมิโน วิตามิน แร่ธาตุ และเอนไซม์ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เมื่อทานเข้าไปสู่ร่างกายแล้ว ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารจาก พอลลิติน ได้ทันที ภายใน 10-15 นาที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย ดูแลลึกถึงระดับเซลล์ ช่วยลดการอักเสบ เพิ่มความแข็งแรงของเม็ดเลือดขาว เมื่อเซลล์แข็งแรง ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆได้ โดยยืนยันจาก ผลงานการวิจัยด้านมะเร็งทั้งในและต่างประเทศ หลายฉบับ
สามารถทานควบคู่กับยาโรงพยาบาลได้ไหม
ในช่วงแรก ที่เริ่มบำบัดโรคร้ายมะเร็ง ก้อนเนื้อ ด้วย พอลลิติน สามารถทานควบคู่กับการทานยาที่โรงพยาบาลได้ เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้ป่วยและครอบครัวเกิดความสบายใจแล้ว ยังช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพ และเห็นผลได้เร็วยิ่งขึ้น ยืนยันจากผลงานการวิจัย และจากผู้ป่วยโดยตรง
แล้วต้องทานยังไง
ทานก่อนอาหาร 30 นาที พร้อมนำ้อุ่นเท่านั้น!!!เน้นตอนท้องว่าง ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารจาก พอลลิติน ได้ดีที่สุด หลังจากที่ทาน พอลลิติน ภายใน 1 ชั่วโมงควรงด ชา กาแฟ ยาปฏิชีวนะ ทุกชนิด หากครบ 1 ชั่วโมงแล้วสามารถทานได้ตามปกติ
***ทานกี่มื้อผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาจากอาการของผู้ป่วยเป็นหลัก แต่ละคนจะมีวิธีการทานที่แตกต่างกันออกไป ควรสั่งซื้อที่มีผู้เชี่ยวชาญติดตามผลลัพธ์ และ ให้คำแนะนำได้ระหว่างที่ทานและมีการปรับเปลี่ยนวิธีการทานตามอาการ เท่านั้น!!!จึงจะเห็นผลลัพธ์สูงสุด***
ต้องทานนานแค่ไหนถึงเห็นผล
ผู้ป่วยจะเริ่มรู้สึก ดีขึ้นตั้งแต่ชุดแรกที่ทาน ต้องทานอย่างน้อยประมาณ 3 ชุด ขึ้นไป อย่างน้อยแนะนำให้ทานต่อเนื่อง 3 เดือนอย่างต่ำ
  • ชุดแรก จะช่วย ปรับสมดุลภายในร่างกาย แต่เริ่มรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง
  • ชุดที่ 2 จะเข้าไปฟื้นฟูเซลล์ภายในร่างกายที่ผิดปกติ ให้ค่อยๆแข็งแรงขึ้น (บางเคสไม่ใช่ว่าทานชุดแรกจะดีขึ้นเลย)
  • ชุดที่ 3 บำรุงร่างกายให้แข็งแรง
​***ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วยแต่ละคน*** 
ถ้าทาน วันเว้นวัน จะได้ผลไหม
ความสม่ำเสมอในการทาน ผู้ป่วยควรมีวินัยในการทานสารอาหารบำบัด โรคอย่างสม่ำเสมอตามที่ผู้เชี่ยวชาญกำหนด เพราะหากขาดความสม่ำเสมอในการทาน เช่นกำหนดว่า ควรทานอย่างน้อยอย่างละ 1 เม็ด 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น แต่ผู้ป่วยทานแค่ 1-2 เวลาต่อวันก็จะไม่ได้ผลลัพธ์เท่าที่ควร เพราะระดับของสารอาหารบำบัดโรค ที่เหมาะสมมีผลต่อโดยตรงต่อการบำบัดรักษา ทั้งนี้ผู้ป่วยหนักมีความต้องการของสารอาหารบำบัดโรคที่สูงกว่าและต่อเนื่องมากกว่าผู้ป่วยทั่วไป
พอลลิติน ต่างจากอาหารเสริมทั่วไปยังไง
แตกต่างจากยาหรืออาหารเสริมทั่วไปเพราะ เป็นการบำบัดรักษาโรคที่ต้นเหตุ ไม่ใช่การรักษาตามอาการ เหมือนยาเคมีหรือยาปฏิชีวนะ ที่หมอจ่ายให้กับผู้ป่วย รวมทั้งด้วยผลผลิตที่มาจากธรรมชาติ 100% จึงไม่ส่งผลร้ายต่อตับต่อไต ได้ในอนาคต และยังทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับแข็ง หรือ ฟอกไต สามารถทานได้ ***อ้างอิงจากผงงานการวิจัย และ จากประสบการณ์ผู้ป่วยโดยตรง***
ถ้าดีขนาดนั้น  ทำไมไม่เอาไปไว้ในโรง-พยาบาล
เนื่องจาก พอลลิติน เป็นสกัดจากธรรมชาติ ได้จดทะเบียนเป็น Nutracutical หรือสารอาหารบำบัด ไม่ได้จดทะเบียนเป็นยารักษาโรค โดยนำเข้ามาในรูปแบบของสารอาหารบำบัด จึงไม่ได้นำเข้าพระราชบัญัติยา จึงไม่ได้มีจำหน่ายตามโรงพยาบาล รัฐหรือเอกชน รวมถึงคลินิกเวชกรรมและร้านขายยาทั่วๆไป ลูกค้า สามารถสั่งของแท้การันตรีไม่แท้ยินดีคืนเงินตามจำนวน ซื้อได้ที่ เว็บไซด์นี้ได้เลยค่ะ
​***ถ้าราคาถูกกว่าปกติ จำหน่ายในลาซาด้า shoppee โปรดระวังของลอกเลียนแบบ*** 
ทำไมต้องทานหลายกระปุก
พอลลิติน มีทั้งหมด 17 กระปุก ซึ่งแต่ละกระปุก จะดูแลแตกต่างกันแต่ละระบบภายในร่างกายทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด
***พอลลิติน มีการแบ่งเซ็ต ตามโรคต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ที่จะเน้นขวดเดียวรักษาทุกโรค ซึ่งเป็นไปไม่ได้***
จะมีผลข้างเคียงไหม
ผลข้างเคียงจากการทาน พอลลิติน จะไม่เกิดขึ้น แต่ในช่วงแรก ที่ทานจะเป็นการปรับสภาพของร่างกาย ผู้ป่วย อาจจะมีความรู้สึก ร่างกายอ่อนเพลีย ง่วงนอน ท้องผูก ท้องเสีย เหงื่ออกเยอะ มีขี้ตา มีผื่นที่ผิวหนัง สีปัสสาวะเปลี่ยน หรืออาจจะมีอาการไข้ อาการเจ็บปวด อาเจียน ให้ผู้ป่วยทานต่อเนื่องห้ามหยุดทานเด็ดขาด !!!  อาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นและเป็นปกติ
***บางคนไม่มีปฏิกิริยาใดๆ หรือปฏิกิริยาหยุดไปเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ ถ้าเป็นผู้ที่มีสุขภาพดีอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย รู้สึกแต่เพียงว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น***
9457f3-01c3d4948c8447f8983f10ac64e49801-
การตรวจเลือด
ต่อให้เจอยาดีแค่ไหนก็ช่วยไว้ไม่ทันหาก...ไม่รีบตัดสินใจ

สกัดจากธรรมชาติ

เป็นสารสกัดจากธรรมชาติมีค่าระดับสารต้านอนุมูลอิสระ (ORAC) และการดูดซึมเข้าสู่เม็ดเลือดแดง 100%

มีส่วนประกอบสำคัญ

วิตามิน แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมากกว่า 280 ชนิด มีกรดอะมิโนที่สำคัญมากกว่า 50 ชนิด และมีเอนไซม์ที่จำเป็นต่อร่างกาย

ได้รับการการันตี

ได้รับการการันตี ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ระดับโลก มีจำหน่ายมากกว่า 50 ประเทศ 6 ทวีปทั่วโลก
611027.3.jpg
201508221719.jpg

อาหารเสริม พอลลิติน ช่วยเรื่องอะไร

1. ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ร้าย หยุดวงจรชีวิตของเซลล์ร้าย ก้อนเนื้อ ที่อยู่ในช่วงการแบ่งตัวช่วยยับยั้งและกำจัดทำลายเซลล์มะเร็งช่วยทำให้เซลล์มะเร็งค่อยๆฝ่อตัวลง ผลงานการวิจัยสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ถึง 98%
2.ลดผลข้างเคียงของการรักษา เคมีบำบัด และฉายแสงรังสี ช่วยลดผลข้างเคียง ของผู้ที่ได้รับเคมีบำบัดและฉายแสงรังสี ลดอาการอ่อนล้า ทานอาหารได้น้อย เหนื่อยงาย ผมร่วง เล็บดำ ผิวคล้ำเริ่มเปลี่ยนสี 
3.ปรับสมดุลภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นระบบภูมิต้านทานตามธรรมชาติ กระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว กระตุ้นการสร้างอะมิโนโปรตีนต่างๆให้อยู่ในระดับเหมาะสมของผู้ป่วยมะเร็ง
4.ขัดขวางกระบวนการของเซลล์มะเร็ง ปรับสมดุลการเผาผลาญให้เซลล์ปกติเผาผลาญได้ดีขึ้น ส่งผลใหเซลล์ร้ายเสื่อมสภาพไป

เหมาะสำหรับใครบ้าง

  • ผู้ที่ต้องการทานเพื่อดูแลสุขภาพ
  • ผู้ที่ต้องการทานเพื่อป้องกันมะเร็ง
  • ผู้ที่มีประวัติทางพันธุกรรมที่เคยป่วยเป็นมะเร็ง
  • ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ
  • ผู้ที่ทานอาหารได้น้อยน้ำหนักตัวลด
  • ผู้ที่มีอาการข้างเคียงจากการรักษา
  • ผู้ที่ แพ้คีโม ฉายแสง ผมร่วง ผิวเปลี่ยนสี เล็บดำ

ระยะเวลาเห็นผลลัพธ์

ผลงานการวิจัย

ทานตั้งแต่ 1 ชุดแรก หรือ 3 ชุดแรก ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วยแต่ละคน และขึ้นอยู่กับ โรค ชนิด อาการ และระยะ ของโรคนั้นๆ หรือระยะเวลา 15-30 วัน เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง
ตาราง1.jpg
มีพิษต่อเซลล์มะเร็งตับ 100%
ตาราง2.jpg
มีพิษต่อเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ 92.80%
ตาราง3.jpg
มีพิษต่อเซลล์มะเร็งเต้านม 100%
S__24354830.jpg
S__22962218.jpg

พอลลิติน ได้รับมาตรฐานโลก ดังนี้

S__24354831.jpg
value8116595.gif

ต่อมน้ำเหลืองโต + เนื้องอกที่คอ

หลังจากที่ทานไป 3 เดือน 
คุณ กมลพร ต๊ะใจ มีปัญหาสุขภาพเรื่องต่อมน้ำเหลืองโต  และเนื้องอกบริเวณคอด้านซ้ายสาเหตุเกิดจากทำงานโรงงานมา 20 ปี เลยทำให้มีสารพิษสารเคมีตกค้างภายในร่างกาย เธอมีอาการอย่างไร ไปฟังพร้อมๆกันเลยค่ะ
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***

มะเร็งตับ ระยะ 3 ลุกลามไป 4

หลังจากที่ทานไป 6 เดือน 
คุณ ธนภรณ์ เข็มทอง เป็นมะเร็งท้องโต ขาบวม ขายของไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลยต้องนอนอย่างเดียว มันทรมานมากเวลาขับถ่ายต้องใช้มือแงะร่วมด้วยไม่งั้นไม่สามารถขับถ่ายได้เลย ชีวิตขิงเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป รับชมพร้อมๆกันเลยค่ะ
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***

มะเร็งเต้านม

หลังจากที่ทานไป 1 สัปดาห์
คุณ วราภรณ์ แสงตาขุน ป่วยเป็น มะเร็งเต้านม แต่หมอวินิจฉัยว่าเป็นก้อนเนื้อปกติ ปวดมากถึงขั้นต้อง หิ้วนมเดินเลย หมอนัดวันผ่าตัด การวินิจฉัยออกมาว่าเป็นกึ่งโรคมะเร็ง จากตอนแรกที่ผ่าตัดเจอก้อนเนื้อเพียง 1 ก้อนหลังจากผ่าตัดแล้วอาการของเธอเป็นอย่างไร ตรวจพบสิ่งไหนเพิ่มเติมไปฟังประสบการณ์ จากเธอกันค่ะ
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***

มะเร็งโพรงจมูก มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งตับ

หลังจากที่ทานไป 9 เดือน
คุณ รภัศศา ฉลาดยิง อดีตป่วยเป็นมะเร็งโพรงจมูก ลามมาที่ต่อมน้ำเหลือง ระยะแพร่กระจาย คิดว่าตัวเองคงไม่มีโอกาสรอดชีวิต หมอรักษาไปทั้งหมด 7 เดือน คีโมไป 10 ครั้ง ฉายแสง 77 ครั้ง ลองไปชมคลิปพร้อมๆกันนะคะ ว่าหลังจากนี้ชีวิตของเธอจะเป็นอย่างไร
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***

รีวิว (Review)

201508221719.jpg

รีวิว (Review)

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (ระยะสุดท้าย)
หลังจากที่ทานไป 7 เดือน ครึ่ง
macbook.png
Review%2011_edited.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (ระยะสุดท้าย)
หลังจากที่ทานไป 5 เดือน ครึ่ง
macbook.png
Review04.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (ระยะสุดท้าย)
หลังจากที่ทานไป 6 เดือน 
Review%2012_edited.jpg
macbook.png
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
มะเร็งเต้านม (ระยะสุดท้าย)
หลังจากที่ทานไป 5 เดือน 4 วัน
macbook.png
รีวิวเคสสำหรับทำWebs_๑๙๐๖๒๔_0017.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
มะเร็งเต้านม (ระยะสุดท้าย)
หลังจากที่ทานไป 4 เดือน 
macbook.png
Review 05.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
มะเร็งเต้านม (ระยะสุดท้าย)
หลังจากที่ทานไป 8 เดือน ครึ่ง
macbook.png
Review 03.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
มะเร็งเต้านม (ระยะสุดท้าย)
หลังจากที่ทานไป 3 เดือน 8 วัน
macbook.png
Review 06.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
มะเร็งเต้านม (ระยะสุดท้าย)
หลังจากที่ทานไป 7 เดือน 
macbook.png
Review 17.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
มะเร็งตับ (ระยะสุดท้าย)
หลังจากที่ทานไป 8 เดือน ครึ่ง
macbook.png
Review copy.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
มะเร็งตับ (ระยะสุดท้าย)
หลังจากที่ทานไป 2 เดือน 
macbook.png
Review05.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
มะเร็งตับ (ระยะสุดท้าย)
หลังจากที่ทานไป 5 เดือน 
macbook.png
Review มะเร็งตับ.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
มะเร็งช่องปาก (ระยะสุดท้าย)
หลังจากที่ทานไป 6 วัน
macbook.png
Review%2013_edited.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
มะเร็ง ต่อมทอลซิล
หลังจากที่ทานไป 2 เดือน
macbook.png
Review%2010_edited.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
มะเร็งผิวหนัง
หลังจากที่ทานไป 3 เดือน
macbook.png
Review 14.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
มะเร็งกล่องเสียง (ระยะสุดท้าย)
หลังจากที่ทานไป 2 เดือน ครึ่ง
macbook.png
Review%2007_edited.jpg
***ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล***
***หมายเหตุ ***มะเร็ง ทุกชนิด ยืนยันด้วยภาพ ว่าเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ทุกๆเคส (ไม่มีการแต่งภาพขึ้นมาแต่อย่างใด) 
9457f3-01c3d4948c8447f8983f10ac64e49801-
®© Copyright
51.png
ตัดสินใจเริ่มทานตั้งแต่วันนี้ เท่ากับคุณให้โอกาสตัวเอง ให้มีสุขภาพที่ดีต่อไป
download.png

จัดส่งสินค้าทุกวัน

  • รอบเช้า ตัดยอด เวลา 10.30 น.
  • รอบบ่าย ตัดยอด เวลา 15.30 น.
Cream and Black Minimalist Writing Servi
9457f3-01c3d4948c8447f8983f10ac64e49801-
Cream and Black Minimalist Writing Servi
Cream and Black Minimalist Writing Servi
Cream and Black Minimalist Writing Servi
Cream and Black Minimalist Writing Servi
Cream and Black Minimalist Writing Servi
Cream and Black Minimalist Writing Servi
Cream and Black Minimalist Writing Servi
Cream and Black Minimalist Writing Servi

#Tag #กำจัดเนื้องอก #วิธีรักษามะเร็ง #รักษามะเร็ง # กำจัดมะเร็ง #ฆ่ามะเร็ง #ยับยั้งมะเร็ง #ยับยั้งเนื้องอก #รักษาเนื้องอก #วิธีรักษาเนื้องอก  #พอลลิติน #เซอร์นิติน #Pollitin #cernitin #ยารักษามะเร็ง #ยารักษามะเร็งระยะสุดท้าย #รักษามะเร็งทุกระยะ #รักษามะเร็งทุกอาการ #แพ้คีโม #ฉายแสง #ผ่าตัดเนื้องอก #ผ่าตัดมะเร็ง #ยารักษามะเร็งเต้านม #ยารักษามะเร็งตับ #ยารักษามะเร็งปอด #ยารักษามะเร็งผิวหนัง #ยารักษามะเร็งลำไส้ #ยารักษามะเร็งปากมดลูก #ยารักษามะเร็งกระดูก #ยารักษามะเร็งสมอง #ยารักษามะเร็งต่อมลูกหมาก #ยารักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง 

bottom of page